ครั้งแรกของวงการเดทออนไลน์ ‘ทินเดอร์’ มุ่งพัฒนา ID Verification เตรียมใช้งานทั่วโลก การประกาศครั้งนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ชุมชนที่ปลอดภัยของทินเดอร์ ทินเดอร์ ประกาศการพัฒนาการยืนยันตัวตนในแบบ ID Verification ที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลกพร้อมใช้ในไตรมาสหน้า โดยทินเดอร์จะพิจารณาคำแนะนำจากทั้งผู้เชี่ยวชาญและสมาชิก ตลอดจนเอกสารที่เหมาะสมในการใช้ยืนยันตัวตนในแต่ละประเทศ รวมไปถึงกฎหมาย และข้อบังคับในท้องถิ่น เพื่อกำหนดการทำงานของฟีเจอร์ดังกล่าว ทั้งนี้จะเปิดให้ใช้งานตามความสมัครใจของผู้ใช้งานก่อนในช่วงแรก ยกเว้นในกรณีที่ประเทศนั้นๆ มีกฎหมายบังคับใช้การยืนยันตัวตนในทันที และขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับเพื่อให้แน่ใจว่าวิธีการตรวจสอบจะไม่รุกล้ำความเป็นส่วนตัว มีความเท่าเทียมและครอบคลุมต่อผู้ใช้แอปพลิเคชั่นได้มากที่สุด
รอรี โคซอลล์ หัวหน้าฝ่าย Trust & Safety Product ของทินเดอร์ เปิดเผยว่า
“การยืนยันตัวตนแบบ ID Verification เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและมีรายละเอียดมาก จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงใช้แนวทางการทดสอบและเรียนรู้ควบคู่กับไปกับการพัฒนาเรื่องดังกล่าว เรารู้ว่าหนึ่งในหลายสิ่งสำคัญที่ทินเดอร์สามารถทำให้สมาชิกรู้สึกปลอดภัย คือการทำให้พวกเขามั่นใจว่าได้แมตช์กับคนที่มีตัวตนจริงๆ และควบคุมได้มากขึ้นว่าจะทำความรู้จักกับใคร เราหวังว่าผู้ใช้ทินเดอร์ทั่วโลกจะเห็นถึงประโยชน์ในการทำความรู้จักกับคนที่ผ่านระบบการยืนยันตัวตนดังกล่าว และพวกเรารอวันที่ผู้ใช้ทินเดอร์มีการยืนยันตัวตนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ทินเดอร์ ถือเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความปลอดภัยในการเดตออนไลน์ จากการสร้างฟีเจอร์ Swipe หรือการปัด เพื่อเลือกสร้างความสัมพันธ์ที่ถูกสร้างขึ้นจากเทคโนโลยี double opt-in technology โดยจะต้องมีการยินยอมร่วมกันของทั้งสองฝ่ายก่อนจะมีการเชื่อมต่อ โดยในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ทินเดอร์ได้พัฒนามากกว่า 10 ฟีเจอร์หลัก ที่ใช้การลงทุนเชิงลึกด้านเทคโนโลยีช่วยลดการไม่เปิดเผยตัวตน เพิ่มความน่าเชื่อถือ และมีความปลอดภัยในการใช้ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การยืนยันตัวตนด้วยภาพถ่าย (Photo Verification) และวิดีโอแชท (Face to Face video chat)
เทรซี่ เบรเดนท์ รองประธานบริหารฝ่าย Safety and Social Advocacy ของ Match Group กล่าวว่า “เรารู้ว่าในหลายส่วนของโลกและในกลุ่มของผู้ที่ถูกกีดกันทางสังคม อาจมีเหตุผลไม่สามารถหรือไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ การสร้างทางออกที่เท่าเทียมกันอย่างแท้จริงด้วยยืนยันตัวตนด้วย ID Verification จึงเป็นสิ่งที่ท้าทาย และเป็นโปรเจคที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งพวกเราต้องการความเห็นจากสมาชิกรวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญในการช่วยพัฒนาเรื่องดังกล่าว”
ก่อนหน้านี้ ทินเดอร์ได้เปิดใช้การยืนยันตัวตนผ่าน ID Verification เป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2019 และได้ใช้การเรียนรู้จากฟีดแบ็กที่ได้รับเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจครั้งนี้ ทินเดอร์ยังคงลงทุนในด้านความปลอดภัยและทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความมุ่งมุ่นที่เป็นส่วนหนึ่งของ Match Group ซึ่งก่อนหน้านี้ได้การประกาศลงทุนกว่า 100 ล้าน ดอลล่าร์สหรัฐเพื่อพัฒนาด้านบุคลากร ผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการกลั่นกรองต่างๆ ด้าน trust and safety ในปี 2021
สลับภาพได้จากทุกเลนส์ บอกเลยว่าฟังก์ชันนี้โดนใจตากล้องแบบสุด ๆ สำหรับใครที่ไม่อยากเปลี่ยนเลนส์ไปมาระหว่างบันทึกวิดีโอ ก็สามารถสลับภาพได้ด้วย Director View Mode โดยจะแสดงผลของภาพจากเลนส์แต่ละตัว ปรากฎขึ้นมาให้เห็นบนจอเดียวกัน
ทำให้เราสามารถเปรียบเทียบได้ว่า ระยะภาพจากเลนส์ตัวไหนเหมาะสมสำหรับการถ่ายที่สุด ตั้งแต่มุมโลส-อัพ มุมกว้าง ช่วยให้ไม่พลาดช็อตสำคัญระหว่างถ่ายวิดีโอนั่นเอง โดยฟังก์ชันนี้จะมีอยู่ในเฉพาะ Galaxy S21 Series 5G เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น หรือกล่าวได้ว่าเป็นโหมดที่เหมาะสำหรับ ผู้กำกับ มากที่สุด
CPU เร็ว แรง ใช้งานลื่นไหล
ขุมพลังความแรงของ Galaxy S21 Ultra 5G อยู่ในชิปประมวลผลระดับไฮเอนด์ที่เพิ่งเปิดตัวสด ๆ ร้อน ๆ อย่าง Exynos 2100 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 5nm ซึ่งใช้โครงสร้างแบบเดียวกับ Snapdragon
อีกทั้ง GPU สำหรับรองรับการทำงานของกราฟิก ยังเป็นรุ่น Mali-G78 พร้อมด้วยชิบ ISP ในการประมวลสัญญาณภาพแบบใหม่ ให้สามารถใช้กล้องหลัก 4 ตัว แบบเรียลไทม์ได้อย่างลื่นไหล
ช่วยต่อยอดขีดความสามารถในการถ่ายภาพในตระกูล Galaxy S21 Series ในอนาคต โดยที่ CPU จะมีความแรงมากกว่าเดิมถึง 20%
และ GPU Mali-G78 ก็สามารถประมวลผลภาพกราฟิกได้เข้มกว่าเดิมถึง 35% ส่งผลให้ AI มีการทำงานที่แรงขึ้นกว่าเดิม โดยยังคงใช้พลังน้อยลงกว่าเดิม 20%
Galaxy S21 Ultra 5G เหมาะกับใคร? ประสิทธิภาพโดยรวมของรุ่นนี้ ส่วนมากจะเน้นไปที่การใช้งานในสาย Content Creator หรือการทำสื่อบันเทิงต่าง ๆ ซึ่งถ้าใครที่ทำงานด้านนี้ หรืออยากมีกล้องติดตัวพร้อมบันทึกภาพความประทับใจ เก็บทุก ๆ ช่วงเวลาอย่างสวยงาม แนะนำว่าจบครบที่เครื่องนี้แน่นอนจ้า
ราคา และการวางจำหน่าย Samsung Galaxy S21 Ultra 5G มีราคาวางจำหน่ายเครื่องเปล่าเริ่มต้นที่ 39,900 บาท สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ซัมซุงประเทศไทย ได้เลยนะครับ
หน่วยความจำภายในเครื่อง ROM 128 GB มาตราฐาน UFS 2.1 และเพิ่มได้อีกด้วย microSD Card แบบ microSDXC และใช้ User Interface ประเภท ColorOS 11.1
ชาร์จไว โดนใจไปอีก มาพร้อมแบตเตอรี่ประเภท Li-Ion กับความจุ 4310 mAh รองรับการใช้งาน ได้ตลอดทั้งวัน และเพิ่มระยะการใช้งานไปอีก ด้วยโหมดประหยัดพลังงาน Super Power Saving Mode + Super Nighttime Standbyซึ่งในโหมดนี้ เราจะสามารถใช้ได้เฉพาะ ฟังก์ชันพื้นฐาน เท่านั้น
แต่ใครที่ไม่ชอบเปิดโหมด ประหยัดพลังงาน สำหรับเครื่อง OPPO Reno6 Z ก็ได้ใส่ระบบ ชาร์จเร็วแบบ 30W VOOC Flash Charge 4.0 โดยชาร์จให้เต็ม 100% ได้ภายในเวลาเพียง 52 นาที แถมด้วยการใช้งานประสิทธิภาพสูงสุดในโหมด High Performance สำหรับใครที่อยากได้รับ การประมวลผล ที่เร็วแรง กว่าเดิม แน่นอนว่าในโหมดนี้ จะกินพลังงานแบตเตอรี่ ค่อนขางสูง และอาจทำให้แบตหมดเร็วกว่าปกติ ด้วยเช่นกัน
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น